เรือประจัญบานเกนกุต "ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่น" (Russian battleship Gangut "October Revolution")
ที่ได้เป็นเรือลำเเรกของเรือประจัญบานเเบบเดรดนอจ์ทในชั้นเกนกุตเเห่งจักรพรรนาวีรัสเซีย ตัวเรือถูกสร้างขึ้นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเเละยังเป็นเรือลำสุดท้ายของชั้นที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติเเก่ชัยชนะของกองทัพเรือจักรพรรนาวีรัสเซียที่มีชัยเหนือกองทัพเรือสวีเดนในยุทธนาวีที่เกนกุตเมื่อปีค.ศ.1714
เกนกุตสร้างเสร็จสมบูรณ์ในระหว่างช่วงฤดูหนาวของปีค.ศ.1914-1915 เเละเข้าประจำการในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ.1915 เเต่เรือก็ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูจนกระทั่งกลางปีค.ศ.1915 เกนกุตก็ได้ร่วมป้องกันการโจมตีจากฝ่ายเยอรมันที่บริเวณปากอ่าวฟินเเลนด์ เเต่เกนกุตก็ไม่ได้กลับไปเข้าร่วมในสงครามใดๆโดยจะใช้เวลาส่วนใหญ่โดยไปกับการเป็นเรือฝึกเเละทำหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันในปฏิบัติการวางเเนวทุ่นระเบิด ซึ่งในเวลาต่อมาเหล่าบรรดาลูกเรือก็ได้เข้าร่วมกับกองเรือบอลติกของฝ่ายกบฏภายหลังเหตุการณ์ปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ในรัสเซีย เเละได้เข้าร่วมกับฝ่ายบอลเชวิกในปีค.ศ.1918
ในปีค.ศ.1918 เกนกุตถูกวางให้เป็นกำลังสำรองโดยปราศจากลูกเรือเเละไม่ได้กลับมาเข้าประจำการจนกระทั่งปีค.ศ.1925 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เกนกุต ได้ถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็น ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่น (การปฏิวัติเดือนตุลาคมในรัสเซียเมื่อปีค.ศ.1917)
ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่น ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ในช่วงระหว่างปีค.ศ.1931-1934 ด้วยการเปลี่ยนหม้อน้ำ เเละระบบควบคุมการยิง รวมถึงในส่วนของสะพานเดินเรือให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เเละในช่วงครามฤดูหนาวระหว่างโซเวียต-ฟินแลนด์ ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่นได้ทำหน้าที่ระดมยิงเข้าใส่ปืนใหญ่ตามเเนวชายฝั่งของฟินเเลนด์ในช่วงเวลาหนึ่ง ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่นได้รับการเสริมประสิทธิภาพในด้านของปืนต่อสู้อากาศยานในช่วงต้นปีค.ศ.1941 ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการบาร์บารอสซา
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่น ได้ทำการยิงสนับสนุนการให้กับฝ่ายกองทัพโซเวียตในขณะที่กองทัพเยอรมันเคลื่อนทัพเข้าสู่เมืองเลนินกราดในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ.1941 จนกระทั่งในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ.1941 เรือก็ได้รับความเสียหายจากระเบิดจำนวน 3 ลูกเข้าที่บริเวณส่วนหัวของเรือส่งผลให้ป้อมปืนจำนวน 2 ป้อมใช้การไม่ได้ เรือจึงถูกนำกลับไปซ่อมเเซมในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ.1941 ที่อู่ทหารเรือบอลติก เเละถูกโจมตีทางอากาศจากฝ่ายเยอรมันอีกหลายครั้งจนกระทั่งเรือซ่อมเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1942 ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่นก็ได้กลับไปร่วมสนับสนุนการโจมตีโต้กลับของฝ่ายกองทัพโซเวียตที่เลนินกราดเเละที่วายบอร์กในช่วงต้นปีค.ศ.1944 เเละเรือก็มาได้รับเหรียญกล้าหาญ ออร์เดอร์ ออฟ เดอะ เรด เเบนเนอร์ ในวันที่ 22 กรกฏาคม ค.ศ.1944
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ออคโทเบอร์ เรโวลูชั่นก็ได้ทำหน้าที่เป็นเรือฝึกตั้งเเต่วันที่ 24 กรกฏาคม ค.ศ.1954 จนกระทั่งถูกถอดรายชื่อออกจากกองทัพเรือในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1956 เเล้วตัวเรือก็มากลายเป็นเศษเหล็กในปีค.ศ.1958
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น